เกมพรีเมียร์อังกฤษ นัดที่ 2 คู่แรกของวันอาทิตย์ เซาแธมป์ตัน ที่นัดก่อนพ่ายพาเลซมา 1-0 วันนี้เปิดรังรับ สเปอร์ส ที่ก็พ่ายเอฟเวอร์ตันมาเมื่อนัดที่แล้วเช่นเดียวกัน เกมนี้จึงมีความหมายหากใครสามารถคว้าแต้มได้ สำหรับเจ้าบ้านมาในระบบ 4-2-2-2 หรือ 4-4-2 ส่วนทีมของมูรินโญ่วางผัง 4-3-3

เริ่มต้นเกมทั้งสองฝ่ายต่างยิงประตูได้แต่ถูกจับล้ำหน้า กระทั่งเซาแธมป์ตันขึ้นนำไปก่อนจาก อิงค์ ซึ่งสังเกตได้ตั้งแต่จังหวะที่เป็นประตูแล้วล้ำหน้าไปก่อนหน้านี้ ที่แดนกลางของสเปอร์สปล่อยให้ได้เปิดบอลยาวไปยังคู่กองหลัง จนสุดท้ายมาเสียประตู
การขึ้นนำก่อนสำหรับเซาแธมป์ตัน ถือว่าได้เปรียบ เพราะหากถอยรับลึกจะสร้างความลำบากแก่แนวรุก สเปอร์ส อย่างแน่นอน แต่นักบุญแดนใต้ดันเลือกครองบอลและขึงใส่เป็นระยะ พร้อมกับการวางกับดักล้ำหน้า ซึ่งเปิดช่องให้แนวรุกของสเปอร์ส ทั้งซนและเคน ได้ประสานงานกันจนได้ประตูตเสมอก่อนจบครึ่งแรก

หากเป็นทีมที่อ่อนชั้นกว่าและต้องเผชิญกับลูกทีมของมูรินโญ่ กฎเหล็กคือห้ามโดนนำ เพราะหากโดนนำเมื่อใดจะเป็นงานยากทันทีในการเจาะแนวรับซึ่งโลกลูกหนังต่างรับรู้ในสรรพคุณเรื่องนี้ดี แต่เซาแธมป์ตัน ไม่ทำแบบนั้นในครึ่งหลัง เริ่มจากไม่เปลี่ยนแนวทางพยายามครองบอล ต่อบอลและขึงเกมบุก ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ชำนาญการเล่นแบบนี้ เพราะแม้แต่คริสตัล พาเลซ ที่เจอมาเมื่อสัปดาห์ก่อนยังเจาะไม่ได้เลย ทำให้ยิ่งเล่นก็พลาดเสียบอล
แต่ถึงกระนั้นโค้ชของฝั่งเจ้าบ้านได้เตรียมแผนเกมรับมารองรับไว้แล้ว นั่นคือการดันแนวรับเพื่อวางกับดักล้ำหน้า ซึ่งก็ได้ผลจริงถึง 6 ครั้ง แต่ผลตอบรับที่ได้กลับมาหากดักล้ำหน้าพลาด คือการเสียประตูไปถึง 4 จาก 5 ในเกมนี้
บทสรุปจากเกม เซาแธมป์ตัน ได้เปรียบก่อนในเกมนี้ แต่การวางแท็กติกในเกมผิดพลาดและไม่เหมาะสมกับคู่แข่งอย่างสเปอร์ส ที่เปรียบเหมือนการเชิญให้ทีมเยือนวิ่งขึ้นมายิงประตู จนไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจกับการพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ขนาดนี้ ส่วนสเปอร์ส ใช้จุดแข็งโจมตีจุดที่เป็นปัญหาของเจ้าบ้านได้ดี จนคว้า 3 แต้มออกมาได้อย่างสวยงาม แต่ก็ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแนวรับที่ต้องไปปรับแก้ให้รัดกุมกว่านี้
ติดตาม เว็บข่าว ตลาดซื้อขายนักเตะ และติดตาม ฝีเท้าเทพไม่แพ้ใคร! อดีตแข้งเป่าหูเปแอสเชดึงตัว “เอ็นโกโล่ ก็องเต้” เสริมแกร่ง