ดูเหมือนจะหาเรื่องเข้าตัวจากการที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อดีตนักเตะของสโมสร หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ตอนนี้ค้าแข้งอยู่กับสโมสร แมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งอยู่ดี ๆ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า นักเตะผิวดำไม่มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือของทีมเหมือนนักเตะผิวขาว ก็ดูจะเป็น ดราม่าไม่เข้าเรื่อง ในสถานการณ์ตอนนี้
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า นักเตะผิวดำไม่มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกุนซือของทีมเหมือนนักเตะผิวขาว
ซึ่ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ให้ความคิดเห็นเรื่องนี้เพราะจากความรู้สึกของเขาที่เป็น คนผิวดำ และโดน เหยียดเชื้อชาติ เหยียดสีผิว มาโดยตลอดจากกลุ่มแฟนบอล และเขามองว่าในอนาคต หากเขาอยากจะเป็นกุนซือคุมทีมไหนสักทีมบนโลกใบนี้โอกาสของเขาคงไม่มี เพราะโลกของฟุตบอลต้อนรับแต่กุนซือผิวขาว ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่าง สตีเวน เจอร์ราด และ แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตนักเตะคนดังของ ทีมชาติอังกฤษ และ สโมสรดัง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี หลังจากยุติบทบาทการเป็นนักเตะ ก็สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นกุนซือคุมสโมสรได้อย่างง่ายดาย และกับเขาเองก็เป็นนักเตะฝีเท้าดี มีชื่อในระดับหนึ่ง
หากเขาสะสมประสบการณ์มากพอหลังจากที่ยุติบทบาทการเป็นนักเตะอาชีพแล้วเขาก็อยากจะคุมทีมบ้าง แต่จะมีที่ไหน ให้เขาคุมเพราะเขาเป็นคนผิวดำ เขายังกล่าวต่อว่า นักเตะผิวขาวมักได้โอกาสดีกว่านักเตะผิวดำเสมอ ไม่ว่าจะในตอนที่ค้าแข้งหรือยุติบทบาทไปแล้ว ก็สามารถก้าวเข้าสู่อาชีพอื่น ๆ ได้อย่างสบายไม่ว่าจะเป็นในวงการฟุตบอล หรือในวงการอื่น ๆ

คุณก็เห็นบางคนเป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลกับสื่อกีฬาต่าง ๆ นอกจากนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยังกล่าวอีกว่าในพรีเมียร์ลีกนั้นมีนักเตะผิวดำเยอะเลยทีเดียว แต่พวกเราดูเหมือนจะเป็นแค่นักเตะระดับล่าง ไม่ได้ถูกยกย่องอะไรมากมาย อีกทั้งแฟนมันเองก็ตั้งเป้าที่จะดูถูกและเหยียดหยามพวกเราอยู่ตลอดเวลา หากคุณสังเกตให้ดีใน พรีเมียร์ลีกอังกฤษ แทบจะไม่มีผู้บริหารไม่มีกุนซือหรือบุคคลสำคัญอยู่ในตำแหน่งระดับสูงเลยมีแต่คนผิวขาวเท่านั้น
ก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะน้อยอกน้อยใจ และประกอบกับในระยะนี้สถานการณ์ในหลายประเทศ มีการรณรงค์ให้ ยุติการเหยียดเชื้อชาติและสีผิว ก็เลยทำให้รายนี้ออกมากล่าวผ่านสื่อ และน่าจะเป็นการปูทางให้บรรดาสโมสรฟุตบอล หรือสมาพันธ์ฟุตบอลต่าง ๆ หันมาให้ความสนใจกับนักเตะผิวสีกันมากขึ้น