เรียกว่าเป็นกระแสที่ติดลมบน ยังถูกพูดถึงไม่หายสำหรับการประเดิมสนามนัดแรกของเด็กหนุ่มวัย 15 ปี 181 วันที่ถือว่าเป็นดาวรุ่งที่อายุน้อยที่สุดที่ลงสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีก อีธาน เอ็นวาเนรี่ กองกลางดาวรุ่งที่ทีมเจ้าปืนใหญ่ อาร์เซนอล ฟูมฟักเลี้ยงดูมาตั้งแต่เยาวชน และมีความมั่นใจที่จะใช้เขาลงสนามเพื่อสัมผัสเกมระดับสูง หลังจากที่ได้มีชื่อเป็นตัวสำรองที่เจ้าตัวรู้ล่วงหน้าเพียงแค่ 1 วันในการที่ทีมออกมาเยือน brentford และด้วยสถานการณ์ที่ทีมนำขาด รวมทั้งการบาดเจ็บของกองกลางตัวสำคัญอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด ทำให้โลกต้องจารึกว่าวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2022 มีนักเตะหนุ่มที่มีอายุน้อยที่สุด ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้ลงสัมผัสเกม ซึ่งยังไม่ลืมตาดูโลก ขณะสนาม เอมิเรตส์ สเตเดียม สร้างเสร็จพร้อมใช้งาน (2006) จารึกประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ ลีก หลังลุกจากม้านั่งสำรอง เกมถล่ม เบรนท์ฟอร์ด 3-0 วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน

ก้าวต่อไปของ “เอ็นวาเนรี่” จะรุ่งหรือร่วงคงต้องรอดู
บนม้านั่งสำรองในวันที่อาร์เซนอลเอาชนะเบรนฟอร์ดได้ เว็บข่าวฟุตบอล อย่างขาดลอย 3 ประตูต่อ 0 มี ลิโน ซูซ รวมทั้งอีธาน เอ็นวาเนรี่ที่กล้องหลายตัวและสื่อหลายสำนักจับตามอง รอถามแฟนบอลอาร์เซนอล และแฟนบอลทีมอื่นต่างไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร และเหตุใดมิเกลอาร์เตต้าถึงมีความมั่นใจที่ได้ใส่ชื่อเขานั่งอยู่เป็นตัวสำรองข้างสนาม แต่เมื่อถึงนาทีที่ 84 ที่ทีมคลายความกดดันเมื่อมีผลการแข่งขัน 3 ประตูต่อ 0 เขาก็ถูกส่งลงสนามท่ามกลางเสียงชื่นชม และเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
สำหรับแฟนปืนใหญ่หลายๆคนอาจจะมองว่าการที่เอ็นวาเนรี่ ได้โอกาสลงสนามและสิ่งที่มิเกลอาร์เตต้าทำ เป็นการบอกนัยๆไปถึงบรรดาดาวรุ่งคนอื่นๆในทีมอาร์เซนอลว่า หากคุณเก่งพอดีพอ และมีความมุ่งมั่นมากเพียงพอ ก็อาจจะมีโอกาสและทีมอาร์เซนอลก็เป็นอีกทีมหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปั้นนักเตะ ในยุคสมัยอดีตก็มีนักเตะที่มาจากอะคาเดมี่ของสโมสรขึ้นมาทำผลงานได้ดีมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือเชสฟาเบรกาส ที่เคยเป็นนักเตะอายุน้อยลำดับที่ 3 ที่ได้ลงโม่แข้งในเวทีพรีเมียร์ลีก

กรณีส่ง เอ็นวาเนรี่ ลงสนามขอมิเกลอาร์เตต้า ไม่ได้มีเพียงเฉพาะคำชมแต่เพียงอย่างเดียว นักข่าวหลายๆคนรวมทั้งผู้อยู่ในวงการมีมุมมองที่แตกต่าง บางคนมองว่าอาจจะได้กดดันเด็กคนนี้มากจนเกินไป หรือแม้กระทั่งบอกว่าสิ่งที่โค้ชชาวสเปนทำ เพียงเพราะต้องการสร้างชื่อให้กับตนเอง ที่ได้ส่งเด็กอายุน้อยที่สุดลงสนามเพียงแค่นั้น แต่สิ่งเหล่านี้คงต้องดูกันยาวๆ ว่าสิ่งที่เขาทำจะส่งผลดีหรือผลร้ายให้กับนักเตะดาวรุ่งกันแน่