ถืออีกเมตส์การแข่งขันที่หลายคนต่างจับตามอง ที่ในศึกก่อนหน้านี้ก็ดูท่าทีว่า แอต.มาดริด จะไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลย เมื่อนักเตะในทีมต้องเหลือเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น จึงเป็นที่น่าเป็นหวงในตอนนี้ และดันต้องมาเจอกับทีมที่มีฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมอย่างทีม เรอัล เบติส ที่มีคะแนนไล่หลังกันมาอย่างติดๆ โดยในครั้งนี้ทีมเยือนก็ได้ผู้นำทัพที่กำลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นอย่าง โชโล่ ซิเมโอเน่ และยังโชคดีที่ได้ ดีเอโก้ คอสต้า ที่พ้นโทษแบบนกลับมาช่วยอีกแรง ส่วนทางเจ้าถิ่นก็ได้กุนซือชั่วคราวอย่าง อเล็กซิส ตรูฆีโย่ ที่พักหลังมานี้เริ่มที่จะพลักดันให้ทีมไปในทางที่ดีขึ้นและได้ โลเรน โมรอน ที่พ้นโทษแบนออกมาเช่นกันควบคุมอยุ่ที่กองหลัง
“ แอต.มาดริด ” เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ชนะแบบหวุดหวิด!!!
รายละเอียดระหว่างการแข่งขัน

เมื่อเริ่มต้นการแข่งขันที่ในนาทีแรกยังเป็นการดูเชิง แอต.มาดริด ก็ยังถือว่าเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบอยู่ในตอนต้น ซึ่งในตอนนี้ดูท่าว่าทีมเยือนอาจจะได้ตีไข่แตกก่อนก็เป็นได้ แต่ในนาทีที่ 20 ฝ่ายเจ้าบ้านก็ได้เห็นช่องโหว่ไล่ครองบอลยาวหลุดไปที่ โลเรน โมรอน บุกเข้าไปถึงเขตโทษแต่ดันเกิดความลังเลยิงติดกองหลังที่เข้ามาสมทบได้ทันเวลา ผ่านมาไม่กี่นาทีฝ่ายทีมเยือนกลับมาเป็นฝ่ายครองอีกครั้ง โดย อังเคล กอร์เรอา ซึ่งหลุดไปถึงหน้าประตูและได้ยิงประตูให้กับทีมได้สำเร็จ แต่ในจังหวะเดียวกันผู้ตัดสิ้นก็ได้เข้าไปเช้คที่กล้องดันเห็นว่าบอลไปโนแขนของ มาร์กอส ยอร์เรนเต้ จึงอดได้คะแนนนี้ไป หลังจากที่พักผ่อนและเริ่มต้นต่อครึ่งหลังก้ดูเหมือนว่าจะไม่มีทีมใดสามารถที่จะตีไข่แตกได้เลย แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นในนาทีที่ 74 เกิดจังหวะชุลมุนเมื่อบอลลอยอยู่กลางความวุ่นวายนั้นพอดีกับที่ ดีเอโก้ คอสต้า ได้สังเกตเห็นพอดีหม่งเข้าประตูไปได้อย่างไม่ทันได้เห็น ทำให้ผู้ตัดสิ้นกลับไปเช็คกล้องจึงให้คะแนนทีมเยือนตีไข่แตกไปในที่สุด กลายเป็น เรอัล เบติส เจ้าบ้านแพ้คาบ้านไปในครั้งนี้
สรุปหลังการแข่งขัน

แอต.มาดริด ได้คะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 66 คะแนน ทำให้ได้หลุดเข้าไปเป็นสี่ทีมสุดท้ายเข้าชิงถ้วยรางวัลในศึกการแข่งขัน ลา ลีกา สเปน ได้สำเร็จ ส่วนทาง เรอัล เบติส ยังคงต้องพยายามต่อไป
>>>>ย้ายทีม >>>>บรูโน่ สร้างสถิติที่ยอดเยี่ยมหลังลงสนามให้ปีศาจแดงครบ 10 เกม