สโมสรเบนฟอร์ด ที่พ่ายแพ้ให้กับฟูแล่มเพื่อขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีก

สโมสรเบนฟอร์ด เป็นทีมดิวิชั่น 1 ที่รอคอยการกลับมาเล่นในลีกสูงสุดของประเทศหรือพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังจากการเล่นครั้งสุดท้าย คือ เมื่อ 73 ปีที่แล้วหรือตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 แต่ก็ยังไม่สามารถไปถึงฝันได้ เพราะทีมเบรนท์ฟอร์ดพ่ายแพ้ให้กับทีมฟูแล่มด้วยคะแนน 1 ประตูต่อ 2 ในการแข่งรอบเพลย์ออฟ ที่สนามเวมบลีย์ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา

ทั้งที่ฤดูกาลนี้สโมสรเบรนท์ฟอร์ดมีโอกาสมากที่สุดที่ขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก แต่กลับมาแพ้ใน 2 นัดสุดท้ายก่อนจบฤดูกาล ทำให้ทีมที่จะขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2020-2021 มีทั้งหมด 3 ทีม คือ สโมสรลีดส์ ยูไนเต็ด สโมสรเวสต์ บรอมวิช และสโมสรฟูแล่ม

สโมสรเบนฟอร์ด กับคำปลอบใจที่พ่ายให้กับฟูแล่ม

หลังจากความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นกับสโมสรเบรนท์ฟอร์ด โทมัส แฟรงค์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ดวงอาทิตย์จะต้องขึ้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ มันไม่ใช่จุดจบของโลก และแน่นอนว่าในคืนนี้รู้สึกเศร้าและผิดหวังมาก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันก็ต้องเป็นไปแบบที่ต้องเป็น พวกคุณจะต้องเข้มแข็งเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ และตัวเขากล่าวเพิ่มอีกว่าถ้าเราต้องการประสบความสำเร็จเราต้องกลับไปศึกษาถึงความพ่ายแพ้ของตนเองที่เกิดขึ้น ซึ่งเบรนท์ฟอร์ดจะต้องกลับมาแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งในฤดูกาลหน้านี้อย่างแน่นอน

และจากความล้มเหลวของทีมเบรนท์ฟอร์ดที่จะได้ขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก ทำให้มีการถามถึงดาวเด่นของทีมว่าจะยังคงอยู่กับทีมต่อไปหรือย้ายไปทีมอื่น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ทำประตูสูงสุดของทีม โอลลี่ วัตคินส์ หรือจะเป็นปีกซ้ายตัวเก่งของทีมอย่าง ซาอิด เบนราห์ม่า ซึ่งทางหัวหน้าผู้ฝึกสอนโทมัส แฟรงค์ ได้กล่าวว่าเขายังคงรักษาลูกทีมให้อยู่ร่วมแข่งกับทีมได้ และจะกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับทีมอีกครั้งในฤดูกาลหน้า

ส่วนเรื่องการย้ายทีมของนักเตะก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้จัดการทีมอย่างโทมัส แฟรงค์จะเป็นกังวล แต่สิ่งที่ตัวเขากังวลและรู้สึกแย่มากๆ ในตอนนี้ คือ นักเตะทุกคนที่อยู่ร่วมกับทีมมาเป็นเวลานานมีความสามารถเพียงพอที่จะขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีกแต่ต้องผิดหวังที่ไม่ได้ไป และที่สำคัญอีกเรื่อง คือ การทำให้แฟนฟุตบอลของทีมต้องผิดหวังที่ทีมไม่ได้ขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก

สุดท้ายหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรเบรนท์ฟอร์ดก็กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่าเขาเชื่อใจในนักเตะทีมนี้มาก และมั่นใจว่าเบรนท์ฟอร์ดจะกลับมาแข็งแกร่งและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในการแข่งชิงแชมป์สำหรับฤดูกาลที่จะถึงนี้