แผนฟุตบอล ที่ล้าสมัยไปเสียแล้วจากเดิมที่พวกเขามักจะเลือกใช้กองหน้าสอ

แผนฟุตบอล ในยุคที่ฟุตบอลเน้นเล่นด้วยเทคนิคและความเร็วต่างๆ ทำให้แผนฟุตบอลของยุคสมัยปัจจุบันได้เปลี่ยนไป จากเดิมที่พวกเขามักจะเลือกใช้กองหน้าสองคนเพื่อค้ำกองหลังพร้อมใช้ความเร็วของปีกเพื่อเปิดบอลให้คู่หูในเกมรุกได้ทำประตู ส่วนกองกลางที่เหลือจะทำหน้าที่ตัดบอลและชิงจังหวะมากกว่าจะสร้างสรรค์ผลงานเอง แต่ทว่าแผนการเล่นเช่นนี้กลับตกยุคไปเสียแล้วและไม่อาจใช้เป็นเครื่องการันตีความสำเร็จได้อย่างเคย

ช่วงที่แผนอย่าง 442 เป็นที่เฟื่องฟูนั้นก็ต้องย้อนไปในยุคที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยังคงปลุกปั้นเด็กเยาวชนของเขา โดยแผนฟุตบอลนี้ถือเป็นสิ่งที่สร้างชื่อให้ทั้งเดวิด แบคแฮม ไรอัน กิ๊กส์รวมถึงกองหน้าอย่างแอนดี้โคลและดไวท์ ยอร์กที่สามารถทำประตูเป็นกอบเป็นกำจนเรียกว่าแผนกองหน้าสองคนได้ส่งผลอย่างรุนแรงของวงการลูกหนังเลยทีเดียว จนกระทั่งการมาถึงของเชลซีที่เริ่มครองความยิ่งใหญ่จนเฟอร์กี้ต้องเปลี่ยนแผนการเล่นในที่สุด

ส่วนในปัจจุบันนั้นทีมในพรีเมียร์ลีกยังคงใช้แผนฟุตบอลนี้อยู่บ้าง แม้ว่ารูปแบบการเล่นจะเปลี่ยนไปก็ตามเช่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเองก็ยังคงใช้แผนกองหน้าสองอย่างมาร์คัส แรชฟอร์ดและอองโตนี่ มาร์ซิยาลบ้าง แม้จะสลับคนใดคนหนึ่งไปเล่นริมเส้น หรือจะเป็นทางนิวคาสเซิ่ลของสตีฟ บรูซที่ใช้แผนฟุตบอลตกยุคนี้อย่างจริงจังจนโดนแฟนๆ โห่คารังเซนต์ เจมส์ ปาร์คเสมอ พร้อมมองไม่เห็นอนาคตว่าทีมจะประสบความสำเร็จด้วยแผนการเล่นแบบนี้ได้อย่างไร

สิ่งที่แผนฟุตบอลซึ่งมีการเล่นแบบกองหน้าสองตัวยังเหลือไว้ก็คือความสนุกแบบตำนานซึ่งต้องลงไปดูในลีกรองของประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษหรือสก็อตแลนด์ที่ยังคงนิยมใช้แผนตกยุคแบบนี้อยู่ รวมถึงการเล่นแบบเดิมๆ ที่สาดบอลขึ้นไปให้ถึงกองหน้าพักบอลและทำประตูโดยไม่เน้นความสวยงามและเน้นใช้แต่แรงปะทะอย่างเดียวนั่นเอง